
การเลือกใช้ระบบกันซึมดาดฟ้าให้เหมาะกับอาคาร
เปรียบเทียบระบบกันซึมดาดฟ้าแบบต่าง ๆ พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับอาคารแต่ละประเภท ป้องกันน้ำรั่วซึมและยืดอายุการใช้งาน
ทำไมระบบกันซึมดาดฟ้าจึงสำคัญ?
ดาดฟ้าเป็นจุดที่สัมผัสกับแสงแดด ฝน และความชื้นโดยตรง หากไม่มีระบบกันซึมที่ดี อาจเกิดปัญหาน้ำรั่วซึม สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมจำนวนมาก
2. ประเภทของระบบกันซึมดาดฟ้า
🔹 2.1 ระบบกันซึมแบบ Acrylic Waterproofing
✅ เหมาะกับ: อาคารพักอาศัย คอนโด ทาวน์เฮ้าส์
✅ คุณสมบัติ:
มีความยืดหยุ่นสูง ป้องกันการแตกร้าว
ทนรังสียูวีได้ดี ไม่หลุดล่อน
สามารถทาทับพื้นผิวเดิมได้ง่าย
🔹 2.2 ระบบกันซึมแบบ PU Waterproofing
✅ เหมาะกับ: โรงงานอุตสาหกรรม, อาคารพาณิชย์, ลานจอดรถ
✅ คุณสมบัติ:
ทนต่อการขยายตัวและหดตัวของพื้น
มีความยืดหยุ่นสูง รองรับแรงกระแทกได้ดี
ป้องกันน้ำซึมผ่านได้ 100%
🔹 2.3 ระบบกันซึมแบบ Cementitious Waterproofing
✅ เหมาะกับ: ห้องน้ำ, สระว่ายน้ำ, พื้นใต้ดิน
✅ คุณสมบัติ:
เป็นซีเมนต์กันซึมที่มีการยึดเกาะพื้นผิวดีเยี่ยม
ป้องกันการซึมของน้ำจากแรงดันสูง
ใช้งานง่ายและทนทาน
🔹 2.4 ระบบกันซึมแบบ Bituminous Waterproofing (บิทูเมนส์)
✅ เหมาะกับ: หลังคา, อาคารที่ต้องการป้องกันน้ำซึมเป็นพิเศษ
✅ คุณสมบัติ:
ป้องกันน้ำซึมได้ดีเยี่ยม
ทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้น
ใช้ได้ทั้งระบบแผ่นและพ่นเคลือบ
🔹 2.5 ระบบกันซึมแบบ TPO/PVC Membrane
✅ เหมาะกับ: ดาดฟ้าอาคารสูง, โรงงานที่ต้องการความทนทานสูง
✅ คุณสมบัติ:
มีอายุการใช้งานยาวนาน (20-30 ปี)
ทนทานต่อสารเคมีและรังสียูวี
ทนต่อแรงดึงและแรงกระแทกสูง
3. วิธีเลือกใช้ระบบกันซึมให้เหมาะกับอาคาร
✅ 3.1 พิจารณาสภาพแวดล้อม
อาคารที่โดนแดดจัดและฝนบ่อย ควรใช้ PU หรือ TPO/PVC Membrane
อาคารที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ควรใช้ Acrylic หรือ PU Waterproofing
✅ 3.2 คำนึงถึงอายุการใช้งานและการบำรุงรักษา
หากต้องการอายุการใช้งานยาว ควรเลือก TPO/PVC หรือ Bituminous
หากต้องการซ่อมแซมง่าย ใช้ Acrylic หรือ Cementitious
✅ 3.3 ประเภทของพื้นผิวดาดฟ้า
พื้นคอนกรีต: สามารถใช้ได้ทุกระบบ
พื้นกระเบื้อง: ควรใช้ PU หรือ Acrylic ที่ยึดเกาะได้ดี
✅ 3.4 งบประมาณ
Acrylic และ Cementitious ราคาประหยัด เหมาะกับงานทั่วไป
TPO/PVC และ PU มีราคาสูง แต่ทนทาน คุ้มค่าในระยะยาว
